รูปแบบของธุรกิจ
รูปแบบองค์กรธุรกิจ |
การประกอบธุรกิจการค้าอาจดำเนินการได้หลายรูปแบบ ทั้งโดยบุคคลคนเดียวเป็นเจ้าของกิจการโดยลำพัง หรืออาจดำเนินการโดยร่วมลงทุนกับบุคคลอื่นเป็นกลุ่มคณะก็ได้ การที่จะตัดสินใจเลือกดำเนินธุรกิจการค้าในรูปแบบใดนั้น ผู้ประกอบการจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบที่สำคัญหลายประการด้วยกัน เช่น ลักษณะของกิจการค้า เงินทุน ความรู้ความสามารถในการดำเนินธุรกิจเป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อให้การประกอบธุรกิจนั้นประสบผลสำเร็จนำมาซึ่งผล ประโยชน์และกำไรสูงสุด |
ธุรกิจเจ้าของคนเดียว
ลักษณะของกิจการประเภทนี้คือ การตัดสินใจต่าง ๆ เป็นสิทธิของผู้เป็นเจ้าของเพียงคนเดียว การตัดสินใจต่าง ๆ อยู่ในลักษณะ คิดคนเดียว ทำคนเดียว ซึ่งผลดีคือตัดสินใจง่ายและรวดเร็ว แต่ผลจากการคิดคนเดียว ไม่ว่าจะเป็นผลดี…ได้กำไร หรือเป็นผลเสีย….ขาดทุน ก็รับผลคนเดียวเต็ม ๆ ซึ่งลักษณะธุรกิจประเภทนี้จะดีมากถ้าเจ้าของไม่มีปัญหาเรื่องเงินทุนหมุนเวียน เพราะธุรกิจประเภทนี้ไม่สามารถระดมทุนจากใครได้
ลักษณะการเสียภาษี เป็นไปตาม “อัตราก้าวหน้า” ซึ่งหมายถึง ถ้ารายได้มาก
ก็จะเสียภาษีมาก โดยอัตราภาษี สูงสุด ถึง 37% ของกำไรหลังหักค่าใช้จ่าย นั่นคือ ค่าใช้จ่ายจะถูกกำหนดไว้ เป็น 2 ลักษณะ คือ อัตราเหมา ( กำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์ตายตัวตามประเภทของธุรกิจ) และค่าใช้จ่ายตามจริง (ต้องอ้างอิงเอกสารค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่สรรพากรยอมรับได้ หลังจากนั้นจึงนำมาหักค่าลดหย่อนส่วนตัว จึงจะเป็นฐานภาษีสำหรับคำนวณภาษีที่ต้องชำระ
ประเภทของห้างหุ้นส่วน
ประเภทของห้างหุ้นส่วน ตามประมวลกฎหมายเพ่งและพาณิชย์ ได้จำแนกห้างหุ้นส่วนเป็น 2 ประเภท คือ
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ
- ห้างหุ้นส่วนจำกัด
ห้างหุ้นส่วนสามัญ
- ห้างหุ้นส่วนประเภทซึ่งมีผู้เป็นหุ้นส่วนจำพวกเดียว โดยผู้ถือหุ้นส่วนทุกคนต้องรับผิดร่วมกันในบรรดาหนี้สินทั้งปวงของห้างหุ้นส่วนไม่จำกัดจำนวน
- ห้างหุ้นส่วนสามัญ จะจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลหรือไม่ก็ได้ ดังนั้นจึงแยกได้เป็น 2 ประเภทคือ
- ห้างหุ้นส่วนสามัญที่มิได้จดทะเบียน ซึ่งไม่มีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย
- ห้างหุ้นส่วนสามัญจดทะเบียน ซึ่งมีสภาพเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย และมีชื่อเรียกโดยเฉพาะว่า “ ห้างหุ้นส่วนสามัญนิติบุคคล”
ห้างหุ้นส่วนจำกัด
- ห้างหุ้นส่วนประเภทซึ่งมีผู้เป็นหุ้นส่วน 2 จำพวก คือ
- หุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิด ได้แก่ ผู้เป็นหุ้นส่วนคนเดียหรือหลายคน ซึ่งรับผิดจำกัดเพียงจำนวนเนที่ตนรับว่าจะลงทุนในห้างหุ้นส่วนเท่านั้น
- หุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิด ได้แก่ หุ้นส่วนคนเดียวหรือหลานคนซึ่งรับผิดในบรรดาหนี้สินทั้งปวงของห้างหุ้นส่วนโดยไม่จำกัดจำนวน
บริษัทจำกัด
ตั้งขึ้นด้วยการแบ่งทุนเป็นหุ้น แต่ละหุ้นมีมูลค่าเท่าๆกัน โดยผู้ถือหุ้นต่างรับผิดเพียงไม่เกินจำนวนเงินที่ตนยังไม่ใช้ไม่ครบมูลค่าของหุ้นที่ตนถือ ซึ่งลักษณะของบริษัทจำกัด สรุปได้ดังนี้
- แบ่งหุ้นออกเป็นหุ้นละเท่าๆกัน
- ผู้ถือหุ้นรับผิดจำกัดเพียงเงินค่าหุ้นที่ยังส่งไม่ครบ
- มูลค่าของหุ้นๆหนึ่งนั้น ต้องไม่ต่ำกว่า 5 บาท
- หุ้นหนึ่งนั้นแบ่งแยกไม่ได้
บริษัทมหาจำกัด
บริษัทประเภทซึ่งตั้งขึ้นด้วยประสงค์ที่จะเสนอขายหุ้นต่อประชาชน โดยผู้ถือหุ้นมีความรับผิดจำกัดไม่เกินจำนวนเงินค่าหุ้นที่ต้องชำระ และบริษัทดังกล่าวได้ระบุความประสงค์เช่นนั้นไว้ในหนังสือบริคณห์สนธิ
ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535 ได้กำหนดลักษณะโครงสร้างของบริษัทมหาชนจำกัด ไว้ดังนี้
- จำนวนผู้ถือหุ้น มีผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 15 คนขึ้นไป
- ทุนจดทะเบียน ไม่มีการกำหนดจำนวนทุนจดทะเบียนขั้นต่ำไว้
- มูลค่าหุ้นและการชำระเงินค่าหุ้น หุ้นของบริษัทมหาชนจำกัดแต่ละหุ้นจะต้องมีมูลเท่ากัน และต้องชำระค่าหุ้นครั้งเดียวเต็มมูลค่าหุ้น
- จำนวนกรรมการ ต้องมีจำนวนกรรมการของบริษัทไม่น้อยกว่า 5 คน และกรรมการไม่น้องกว่ากึ่งหนี่งต้องมีที่อยู่ในประเทศไทย
โดย วคพ.492
1.นายตุลยพิธ ส่งศรีเกตุ เลขที่ 11
2.นายธรรมรักษ์ พานิชย์ เลขที่ 13
3.นายธีรวัฒน์ สุวรรณวัฒน์ เลขที่ 14
ใส่ความเห็น